ถูกข่มขู่จาก สนง.ทนายความ

ปรึกษากฎหมาย -->ถูกข่มขู่จาก สนง.ทนายความ

เจ้าของกระทู้	หัวเรื่อง
ซิมโทรศัพท์มือถือฟรี!	หัวเรื่อง : ถูกข่มขู่จาก สนง.ทนายความ เวลาตอบกระทู้ : 6/23/2014 1:40:21 PM
ซิมโทรศัพท์มือถือฟรี!	ได้รับซิมแจกฟรี ในห้างมา ใช้ไปแค่เดือนเดียว หลังจากนั้นไม่ได้ยกเลิก ถูกคิดค่าบริการเรื่อยๆ ตอนนี้ผ่านไป ประมาณ 3 เดือน มีหนังสือแจ้งมา .. ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ข้อความตามข้างล่างนี้ * 1.ในกรณีนี้ต้องทำอย่างไรคะ 2.เงินจำนวนแค่นิดเดียวเค้าจะดำเนินการกับเราขนาดนี้เลยหรือ ขอบคุณคะ .........................................................................................................ตามที่สำนักงานฯ ได้รับมอบอำนาจเต็มจาก บริษัท (เครือข่ายมือถือ) จำกัด มหาชน และได้ดำเนินการติดต่อกับท่านเพื่อให้ชำระหนี้โทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข 089XXXXXXX สัญญาเลขที่ XXXXXXXXXXX ซึ่ง ณ วันที 14/06/2557 ท่านมีภาระหนี้ต่อบริษัทฯ เป็นจำนวนเงิน 1,092.51 บาท (ไม่รวมค่าถนายความ) ต่อมาสำนักงานฯ ได้เคยมีหนังสือแจ้งภาระหนี้ และขอให้ท่านชำระหนี้ดังกล่าว แต่ท่านยังเพิกเฉยมิได้ดำเนินการชำระหนี้แต่อย่างใด ดังนั้นทางสำนักงานฯ มีความจำเป็นต้องนำส่งรายชื่อของท่าน เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากทีท่านถูกดำเนินการตามกฎหมายแล้วนั้น ท่านต้องถูกส่งสืบทรัพย์ เพื่อเตรียมอายัดรายได้ต่อกรมบังคับคดีต่อไป หลังจากมีการบังคับคดีแล้ว ทางสำนักงานขอแจ้งว่า ในขั้นตอนต่อไป จะนำพนักงานไปยังภูมิลำเนาของจำเลย เพื่อยึดทรัพย์สินเงินฝากในธนาคาร และทำเรื่องไปยังหน่วยงานของจำเลย เพื่ออายัดเงินเดือน และนำมาชำระหนี้จนครบ ดังนั้น หากท่านต้องการประนีประนอมยอมความ และยุตติข้อพิพาทให้สำนักงานฯ ถอนเรื่อง ขอให้ท่านติดต่อกลับมายังสำนักงานฯ เพื่อชำระหนี้คงค้างดังกล่าว ข้างต้นภายในวันที่ 25/06/2557 จึงเรียนมาเพื่อทราบ และดำเนินการชำระหนี้ดังกล่าว เตือนครั้งสุดท้าย ก่อนออกหมายบังคับคดี
มโนธรรม	หัวเรื่อง : ถูกข่มขู่จาก สนง.ทนายความ เวลาตอบล่าสุด : 6/23/2014 10:56:56 PM
มโนธรรม	ก็เป็นจดหมายทวงหนี้ ไม่ใช่การข่มขู่ ในเมื่อเป็นหนี้เพียงพันกว่าบาท ก็ควรชดใช้ไป เพื่อตัดปัญหา ครับ.... กฎหมายที่ใช้อ้างอิง....ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ปพพ. ม.165 “ การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่ถือเป็นการข่มขู่..........” การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม หมายถึง การขู่ว่าจะใช้สิทธิที่ผู้ขู่มีอยู่ด้วยวิธีการตามปกตินิยม โดยหวังผลตามปกตินิยม เช่น เจ้าหนี้บอกลูกหนี้ว่าถ้าไม่ชำระหนี้จะฟ้องศาลหรือจะฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือลูกหนี้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินชำระหนี้แล้วเช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน เจ้าหนี้บอกลูกหนี้ว่า ถ้าไม่ทำสัญญารับสภาพหนี้ให้เจ้าหนี้แล้ว เจ้าหนี้จะฟ้องเป็นคดีอาญาฐานออกเช็คไม่มีเงิน การที่เจ้าหนี้มาขู่ลูกหนี้อย่างนี้ทั้งหมดถือว่าเป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ซึ่งตามกฎหมายไม่ถือเป็นการข่มขู่ ถ้าลูกหนี้กลัวจะถูกฟ้อง กลัวจะถูกเลิกสัญญาริบมัดจำ จึงยอมทำนิติกรรมตามที่เจ้าหนี้บอก การแสดงเจตนาทำนิติกรรมจะไม่เสื่อมเสียไป ฏีกาที่ 1331/2525 ลูกจ้างกระทำการอันส่อว่าทุจริตเกี่ยวกับการเงิน นายจ้างบอกให้ลูกจ้างลาออก มิฉะนั้นจะดำเนินคดีอาญา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ถือไม่ได้ว่าการที่ลูกจ้างลาออกไปนั้นเพราะถูกข่มขู่ ฎีกาที่ 3527/2532 จำเลยทำสัญญาประนอมหนี้กับโจทก์ที่สถานีตำรวจ โดยโจทก์พูดว่าให้เอาเงินมาใช้เสีย ถ้าไม่ใช้จะฟ้องและติดตะราง พวกของโจทก์พูดว่า “ใช้เสียน้องเอย ถึงคราวจำเป็นแล้ว ถ้าไม่ใช้จะถูกฟ้องให้ติดตะราง” พนักงานสอบสวนก็พูดด้วย “ผู้ใหญ่ใช้เสีย เรามีวินัยอยู่ มิฉะนั้นจะเป็นโทษอาญานะ ” ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นเรื่องที่โจทก์กับพวกขู่ว่าถ้าจำเลยไม่ใช้เงิน โจทก์จะฟ้องเอาผิดกับจำเลยทางอาญา อันเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต เป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่เป็นการข่มขู่อันจะทำให้นิติกรรมเป็นโมฆียะตาม ปพพ.ม.126(เดิม) สัญญาประนอมหนี้สมบูรณ์